อีกหนึ่งเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ใจกลางเมือง “What The Fest Music Festival 2” ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปเมื่อ วันที่ 29-30 มิถุนายน 62 ที่ผ่านมา ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ Siam Paragon ซึ่งงานนี้เหล่าศิลปินอินดี้จากค่ายสนามหลวงมิวสิกก็วาดลวดลายสไตล์ดนตรีในแบบของตัวเองกันบนเวทีมินิสเตจ อย่างสนุกสนานเต็มที่ถึง 2 วัน ทั้ง Pop x Hip Hop Day และ Rock Day

          เริ่มวันแรก สำหรับ Pop x Hip Hop Day เราก็เปิดเวทีกันอย่างอลังการด้วย ดนตรีแจ๊ซจัดเต็มเครื่อง ของ เบ้นท์ บีนทาวน์ (Benz Beantown) หนุ่มแรปเปอร์ที่มีความหลงใหลในดนตรีแจ๊ซ ชวนเพื่อนบีนทาวน์จัดโชว์ในสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร โดยการผสมผสานดนตรีแนวแจ๊ซและฮิปฮอปได้อย่างลงตัว เหมือนนั่งฟังดนตรีอยู่คาเฟ่ชิคๆ ในเมืองบอสตันทีเดียว แถมยังเซอร์ไพรส์คนดูด้วยแขกรับเชิญพิเศษ นุ้ย The Peachband  มาร่วมสร้างสีสันโชว์พลังเสียงให้หายคิดถึงกันในโชว์อีกด้วย  และมาดื่มด่ำบรรยากาศความสนุกกันต่อกับ จิ๊บ (Jeep The Zebras) วงที่มีแนวดนตรีซับซ้อนอยู่ในความเรียบง่าย ด้วยเครื่องดนตรีแค่ 3  ชิ้น แต่ด้วยฝีมือและเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาก็สามารถมัดใจคนดูไว้อยู่  ต่อมากับวง โฮมเลส (Homeless) ที่มาโชว์ดนตรีในแนวเพลงรักปนเศร้าเคล้าน้ำตาอย่างซิงเกิ้ลล่าสุด “เกินกว่าจะจินตนาการ” ซึ่งก็ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดีทีเดียว ทำเอาคนดูอินไปกับเพลงกันสุดๆ และต่อด้วยวงโรแมนติกป๊อป The Pisatband ที่ขยี้กันด้วยลิสต์เพลงรักหลากอารมณ์ ในซาวนด์ดนตรีที่มีความฟีลกู้ดมากๆ  ผ่านโหมดขยี้หัวใจกันแล้ว ขอมารีเฟรชอารมณ์กันต่อกับวงดนตรีซินธ์ป๊อบอารมณ์ดีอย่าง โคโค่นัท ซันเดย์ (Coconut Sunday) ที่จัดหนักจัดเต็มทั้งฝีไม้ลายมือในการเล่นดนตรี, คอสตูม และความเอ็นเตอร์เทนของนักร้องนำ เป็นโชว์ที่น่ารักและสนุกสุดๆ  ไม่รอช้าสนุกกันต่อกับแนวดนตรีโซลป๊อบเจือจางกลิ่นอายอิเล็กทรอนิกส์จากวง ซีโอโก (COGO) สำหรับวงนี้ก็ถ่ายทอดอารมณ์การร้องสดได้อย่างดี  ยิ่งเพลง ยังไงก็ได้ ซิงเกิลที่ถึงแม้ว่าจะเพิ่งปล่อยออกมา แต่ผู้ชมก็สามารถร้องท่อนจบสุดขยี้ตามได้ทั้งฮอลล์ ด้านพาร์ทการเล่นดนตรีก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้วงอื่นๆ เช่นกัน มาส่งท้ายความสนุกของวันกับวง คล็อคเวิร์ค โมชั่นเลส (Clockwork Motionless) เจ้าของเพลงฮิตอย่างเพลง “ปล่อย” ก็ได้ทำโชว์ออกมาได้น่าประทับใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องและการถ่ายทอดอารมณ์เพลงของนักร้องนำและลวดลายการเล่นดนตรี เสียงประสานที่เป็นเอกลักษณ์ของวง  และท่อนฮุคเด็ดที่คนทั้งฮอลล์ส่งเสียงร้องตามกันว่า “ปล่อยให้ความรักเราติดอยู่กับฉัน” ก็สุดประทับใจ สมกับเป็นโชว์ส่งท้ายของวันที่ดีมากอีกโชว์
 
             สำหรับคนที่หลงใหลในดนตรีร็อกก็ไม่พลาดความสนุกในวันที่ 2 ของงานที่มาในธีม Rock Day สนามหลวงมิวสิกเลยส่งต่อความร็อคสุดมันส์อย่างต่อเนื่องบนเวทีมินิ สเตจในวันนี้ เริ่มต้นด้วยวง เดอะ แพชชั่น ออฟ แอนนา (The Passion of Anna) วงร็อกพลังล้นเหลือ เต็มที่กับทุกๆ บนเพลงในโชว์ โดยเฉพาะเพลง “ตะโกน” ซิงเกิ้ลล่าสุดของพวกเขา ที่สามารถทำให้คนดูโยกและร้องตะโกนไปกับพวกเขาได้  วงที่สองที่ขอลดความร็อกลงมาบ้าง แต่ต้องบอกเลยว่าทั้งแนวเพลง ดนตรี และเสียงร้องของเขานั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดๆ นั่นก็คือ  Zee  (ซี เวหยุทธ์ เกตุปัญญา) ที่ชวนพ้องเพื่อนนักดนตรีฝีมือจัดมาร่วมแสดง หลายๆ คนที่ได้ฟังการเล่นดนตรีของเขาต่างก็ชื่นชอบในเสียงโซโล่กีตาร์ที่มีความพริ้วลอย ฟังสบายเหมือนหลุดไปอีกโลก และไฮไลต์ออฟเดอะเดย์ก็ขอยกให้วง บลูส์เทป (Blues Tape) ด้วยสไตล์เพลงที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมากแล้ว ครั้งนี้พวกเขายังตั้งใจทำโชว์ใหม่เพื่อชาว  What The Fest  โดยเฉพาะ ด้วยการเพิ่มเครื่องสายเข้ามา แม้ว่าจะดูต่างแต่ช่างเข้ากันกับดนตรีร็อคแอนด์โรลของพวกเขาอย่างลงตัว เรียกได้ว่าตั้งใจทำโชว์ออกมาได้ดีมากๆ เลยทีเดียว  มันส์กันต่อกับวงดนตรีสไตล์เจร็อก สตาร์บ๊อกซ์ (Starbox) ที่จัดเต็มตั้งแต่เพลงแรกจนจบโชว์ ด้วยเอนเนอจีของ มาซาเอะ นักร้องลูกครึ่งญี่ปุ่น-เกาหลี สาวทรงพลังที่แรงดีไม่มีตก ซึ่งการสื่อสารไม่ใช่อุปสรรคที่สามารถเอนเตอร์เทนคนดูให้สนุกกับโชว์ไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ มาเอาใจหนุ่มๆ สาวๆสายป๊อบร็อกกันบ้างอย่างวง เอเวอโรส (Everose) นับว่าเป็นวงที่โชว์ดีไม่มีตก ไม่ว่าจะการร้อง การเอนเตอร์เทนหรือแม้แต่การเล่นดนตรีของพวกเขาก็ทำออกมาได้ดี แถมยังเรียงเสียงกรี้ดได้เป็นระยะตลอดทั้งโชว์อีกด้วย 
   
             ปิดท้ายโชว์ของ Rock Day ไปกับ 2 ศิลปิน ต่างวัยอย่าง แดเนียล ดิษยะศริน (Daniel Didyasarin) และ ทวน ไทยแลนด์ (Tuan Thailand) ซึ่งโชว์ของ แดเนียล ขวัญใจวัยทีนก็ทำโชว์ออกมาได้อย่างดีไม่แพ้กับวงอื่นๆ ในส่วนของ Tuan Thailand ก็ถือเป็นโชว์ที่น่าจดจำอีกหนึ่งโชว์ เพราะนักดนตรีและลิสท์เพลงนี้ได้ทัวร์ให้ชาวต่างชาติทั้งอังกฤษ ยุโรป และญี่ปุ่น ได้ชมมาแล้วทั้งนั้น และนี่เป็นจังหวะดีที่ได้มาเป็นปิดโชว์อย่างเต็มภาคภูมิ ความพิเศษโชว์นี้ยังเปิดโอกาสให้แฟนเพลงได้ขึ้นไปร่วมเล่นดนตรีกับเขาบนเวที ในซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด “ฤดูสีดำ” อีกด้วย เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆ ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เรียกได้ว่าอิ่มความสุขกันถ้วนหน้าทั้งศิลปินและแฟนเพลงที่มาร่วมงานปีนี้
 
               นี่เป็นเพียงน้ำจิ้มส่วนหนึ่งของศิลปินของสนามหลวงมิวสิกได้มาโชว์เท่านั้น ต่อจากนี้สนามหลวงมิวสิกยังมีความสนุกสุดยิ่งใหญ่อีกครั้ง  ในปลายปี วันที่ 19 , 20  ตุลาคม 2562 ในงานสนามหลวงสวนสนาม คอนเสริต์ที่จัดเต็มถึง 2 เวที กว่า 40 ศิลปินทั้งในกระแสและนอกกระแส ที่  GMM LIVE HOUSE @ Centralworld  บัตรมีจำหน่ายแล้วทาง ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ คอดนตรีทั้งหลายพร้อมไปสนุกด้วยกันป่ะล่ะ !!